ความศักดิ์สิทธิ์และตำนานของหลวงพ่อพรหม
สยบอสรพิร้าย “งูจงอาง” ช่วยชีวิตเด็ก เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน ฉบับนี้ขอนำ “นาทีระทึกขวัญ” ขณะเด็กน้อยผู้หนึ่งต้อง “ผจญภัย”กับอสรพิษร้ายที่เรียกกันว่า “งูจงอาง” กลางหลุมลึกทั้งที่ “เด็กน้อย” ผู้นี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยแต่กลับ “รอด” จากถูกอสรพิษร้ายฉกกัดได้ดุจปาฎิหารย์ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น “ผู้พ่อ” ที่มาพบเห็นจึงเชื่ออย่างสนิทใจเป็นเพราะ “พุทธบารมี” และอำนาจแห่ง “พุทธานุภาพ” ของ “เหรียญคุณพระ” ที่เด็กชายคนนั้นแขวนอยู่บนคอแสดงปาฏิหาริย์เป็นที่น่าอัศจรรย์ และอีกทั้งหลังจากหลวงพ่อพรหม มรณภาพแล้ว คณะกรรมการวัดได้บรรจุศพของท่านไว้ในโลงแก้ว อยู่บนศาลาการเปรียญ ศพของหลวงพ่อพรหมไม่เน่าเปื่อย มด ไร มอด และ แมลง ไม่ได้รบกวนทำลายชิ้นส่วนใดๆในร่างกายของท่านแม้แต่น้อย คล้ายกับหลวงพ่อนอนหลับอยู่ แม้ว่าท่านจะมรณภาพมาแล้วถึง 30 กว่าปี
สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นคือ หลังจากหลวงพ่อได้มรณภาพแล้วศพของหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย แถม
๑.เส้นผมงอกยาว 5-6 มม.
๒.เส้นขนคิ้วงอกยาว 5-6
๓.เส้นขนตางอกยาว 1 ซม.
๔.หนวดงอกยาว 5-6 มม.
๕.เคราใต้คางยาว 5-6 มม.
๖.เล็บมืองอกยาว ๑ ซม.
๗.เล็บเท้างอกยาว 4-5 มม.
หลวงพ่อพรหม มีวิธีการปลุกเสกวัตถุมงคลไม่เหมือนใครส่วนใหญ่หลวงพ่อจะปลุกเสกในบาตร ถ้ามีเทียนชัยจะจุดเทียนชัยหยดน้ำตาเทียนลงในบาตรน้ำมนต์แล้วนำเทียนชัยวนรอบๆ ๙รอบ
แล้วจึงนำดินสอพองมาเจิมที่วัตถุมงคล เอามือคนไปรอบๆโดยที่หลวงพ่อลืมตาเพ่งกระแสจิตอัดพลังแล้วจึงนำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมวัตถุมงคลทั้งหลายแล้วหลวงพ่อจับบาตรใส่วัตถุมงคล เพ่ง กระแสจิตอีกครั้งจนกระทั่งวัตถุมงคลเหล่านั้น มีรังสีพุ่งออกมา จึงนำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมอีกครั้งเป็นเสร็จพิธี
ดังนั้นเราจะสังเกตได้ว่าพระเนื้อผงของหลวงพ่อจะมีรอยบิ่นเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง เพราะเกิดจากหลวงพ่อเอามือคนในบาต
คุณวิเศษของวัตถุมงคลหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
หลวงพ่อพรหมท่านได้พูดกับคุณพ่อ (คุณหมอสมสุข คงอุไร) ในวันหนึ่งต่อหน้าหลายๆคนว่า รูปหล่อขนาดบูชา5″ ที่ท่านเสกไว้นั้น สามารถคุ้มกันป้องกันภัยได้โดยรอบข้างละ 7 หลังคาเรือน ถ้ามีไฟไหม้อัคคีภัยสามรถคุ้มกันไฟได้ข้างละ 7 หลังคาเรือน ถ้าเป็นพระเครื่องท่านคุ้มภัยได้ในรัศมี 7 วาดังที่กล่าวมาเเล้ว หลวงพ่อพรหมท่านจะมั่นใจในพระเครื่องที่ท่านปลุกเสกมาก ในปี 2513 หลวงพ่อพรหมได้ไปปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดจันเสนในงานฉลองโบสถ์ตัดลูกนิมิต
หลวงพ่อโอดตอนนั้นน่าจะเป็นเจ้าคณะอำเภออยู่ เมื่อหลวงพ่อพรหมท่านปลุกเสกเสร็จท่านได้เดินออกมาที่ระเบียงโบสถ์เเล้วพูดว่า”ใครมีปืนเอาออกมายิงข้ามหลังคาโบสถ์ถ้ายิง ออกไม่ต้องมาเรียกข้าว่าหลวงพ่อพรหม เรียกข้าว่า ไอ้พรหมได้เลย”
ดังนั้นปืนนับสิบกระบอกก็ยิงข้ามหลังคาโบสถ์วัดจันเสน ได้ยินเเต่เสียงแช๊ะๆๆๆ ไม่มีปืนกระบอกไหนดังเลย หลวงพ่อพรหมท่านหัวเราะ เจ้าของปืนหันปืนไปทางอื่นเเล้วยิงขึ้นฟ้าก็มีเเต่เสียงปืนดังลั่นไปหมด คุณพ่อว่าหลวงพ่อพรหมท่านเเสดงวิชามหาอุดให้ดู คนเเถวบ้านช่องเเค เเละบ้านอื่นๆในอ.ตาคลีนั้นจะนับถือหลวงพ่อพรหมกันมากงานต้มยาประจำปี
คนจะมากันหลายพันคน ในปี 2515 ที่คุณพ่อออกเงินส่วนตัว ทำเหรียญเเจกทานจำนวน6,000เหรียญ เเจกเเค่วันเดียวก็ร่วมๆ5,000 เหรียญเเล้วคิดดูเอาว่าคนมางานต้มยาท่านมากขนาดไหน หลวงพ่อพรหม ท่านชอบเเจกทานมากผ้าขาวม้าเเจกทานท่านมีชื่อเสียงมาก หลวงพ่อพรหมท่านชอบเเจกผ้าขาวม้าคนยากคนจน คนที่ทำไร่ทำนา คุณพ่อถามหลวงพ่อพรหมว่าทำไม หลวงพ่อถึงชอบเเจกผ้าขาวม้า หลวงพ่อพรหม ท่านบอกคุณพ่อว่าผ้าขาวม้านั้นใช้ได้สารพัดประโยชน์ ทั้งใช้นุ่งอาบน้ำ เวลาร้อนเอาโพกหัวคลุมหัวกันเเดดได้ ใช้ปูนอนก็ได้ เเละที่สำคัญคือหลวงพ่อพรหมท่านบอกว่า”ข้าสงสารพวกชาวไร่ชาวนาปีๆมันโดนงูเห่ากัดตาย กันมากข้าเลยเสกผ้าขาวม้าเอาไว้เเจกพวกมันใช้กันงูกัดได้”
ซึ่งก็มีหลายคนเล่าให้คุณพ่อฟังว่า ตอนที่ทำไร่อยู่ที่เท้าเหมือนมีอะไรมาโขกดังโป้กๆ
พอมองดูเห็นงูเห่ากำลังฉกที่เท้าเขาเเต่ปากงูเห่ามันอ้าปากไม่ได้มันเลยฉกอยู่อย่างนั้น เขาเลยเอามีดหวดหญ้าฟันคอมันขาด ที่หัวเขาโพกผ้าขาวม้าเเจกทานของหลวงพ่อพรหมที่หัว ซึ่งเรื่องคนที่โดนงูเห่าฉกเเต่อ้าปากกัดไม่ได้นี้ชาวไร่ชาวนาหลายคนก็เจอประสพการณ์อย่างนี้เหมือนกัน
ทุกคนที่เจอจะมีผ้าขาวม้าเเจกทานของหลวงพ่อพรหมกันทุกคน มีบางคนเอาผ้าขาวม้าโพกหัวไว้โดนยิงปืนก็ยิงไม่ออก บางคนเป็นโจรเอาผ้าขาวม้าลพ.พรหมโพกคลุมหัวไว้เข้าปล้นโดนยิงยังยิงไม่ออกเช่นกัน เเต่คุณพ่อว่าไม่สมควรเอาวัตถุมงคลของหลวงพ่อพรหมไปใช้ในทางไม่ดี คุณพ่อว่าการที่หลวงพ่อพรหมหรือหลวงพ่อองค์อื่นๆท่านสร้างปลุกเสกวัตถุมงคลนั้นบางคนที่ไม่เข้าใจอาจว่าทำให้คนงมงาย เเต่คุณพ่อว่าถ้ามองกลับอีกด้าน ที่หลวงพ่อพรหมท่านทำนี้เป็นการโปรดสัตว์
ลูกศิษย์มีความต้องการท่านก็ทำให้ เมื่อเขาได้ตามที่ต้องการเขาก็มีความพึงพอใจ คุณพ่อว่าคนเราทั่วๆไปมีความต้องการไม่เหมือนกัน เมื่อเขาต้องการอย่างนี้ท่านก็ทำให้เท่าที่ท่านทำให้ได้คนที่ชอบฝึกสมาธิก็ทำของเขาไปคนนี้ชอบทำบุญตักบาตร คนนั้นชอบทำบุญกับคนเจ็บไข้ได้ป่วยก็ทำไป
ดังนั้นความชอบคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นคนที่เขาชอบในพระเครื่องวัตถุมงคลต่างๆอย่าไปว่าไม่ดี อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาสนใจเข้ามาศึกษา ต่อๆไปอาจจะมาสนใจในการฝึกสมาธิเพื่อการหลุดพ้นก็ได้
